ใน Magento มีการ Add สินค้าอยู่หลายแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้า ซึ่งสินค้าใน Magento มีการแบ่งรูปแบบของสินค้าแบ่งออกเป็นแบบต่างๆ ดังนี้
-
Simple Produtcs หรือสินค้าอย่างง่าย
การ add สินค้าแบบนี้เหมาะกับสินค้าทุกระเภท เป็นสินค้าที่ add ง่ายที่สุด เป็นพื้นฐานของการ add สินค้าแบบอื่นๆ Simple Products นี้ สามารถเพิ่ม Option ของสินค้าได้ เช่น หาก add สินค้าประเภท เสื้อฟุตบอล อยากให้เพิ่มตัวเลือก ให้ลูกค้า เลือกเบอร์ หรือสกรีนชื่อด้านหลังเสื้ิอ ฯลฯ ก็มีช่องให้ลูกค้ากรอก การเพิ่ม Option เหล่าทำโดยโดยการสร้าง Custum Option ให้กับสินค้าผู้ใช้ Magento มือใหม่ทั้งหลาย ต้องหัด add สินค้าแบบ Simple Products ก่อน เพราะเป็นพื้นฐานของการ Add สินค้าประเภทอื่นๆ สินค้าส่วนมาก หากไม่มีความซับซ้อน ต้องตัด Stock แยกสีแยกไซต์ เราก็นิยม add แบบ Simple Products กันครับ
ดูวิธีการ add สินค้า แบบ Simple Products ได้ที่นี่ครับ
-
Configuration Products หรือสินค้าที่ปรับแต่งได้
การ Add สินค้า แบบ Simple Products เมื่อสินค้าแบบเดียว แต่อาจมีหลายสี หรือหลายไซส์ หรืออาจมีหลายตัวเลือก ที่ต้องการตัด Stock ทุกๆ อย่าง การ add สินค้าแบบ Simple Products หากต้องการแยกตัด Stock แต่ละสี แต่ละไซส์ เราต้อง add สินค้าไปทีละตัว ทำให้มีสินค้าที่โชว์ในร้านเป็นจำนวนมาก เช่น หากเสื้อแบบ A มี 2 สี คือ สีแดงกับสีเขียว และ แต่ละสีมี 3 ไซส์ คือ S, M, L เราก็ต้อง add เสื้อแบบ A สีแดงไซส์ S, เสื้อแบบ A สีแดง ไซส์ M, เสื้อแบบ A สีแดง ไซส์ L, เสื้อแบบ A สีเขียว ไซส์… ไปเรื่อยๆ จนครบครับ จะเห็นว่าจะต้อง Add สินค้าแบบ Simple Products ถึง 6 ครั้ง ถึงสามารถตัด Stock ได้ทั้งหมด
การ add สินค้าแบบ Configuration Products จะเป็นการรวมเอา Simple Products หลายๆ ตัว เข้าเป็นสินค้าตัวเดียว และลูกค้า สามารถเลือกสี เลือกไซส์ได้ โดยที่สามารถ ตัด Stock ได้ทั้งหมดเช่นกัน แต่การสร้าง Simple Products โดยผ่านการ add สินค้าแบบ Configuration Products จะง่ายและเร็วกว่ามาก เพราะเราไม่ต้องกรอกข้อมูลในทุกช่อง และมีระบบ generate ข้อมูลให้ด้วย
สรุป การ add สินค้าแบบนี้เหมาะกับสินค้าที่มีตัวเลือก เช่น สี, ไซส์, ขนาด ฯลฯ (จำพวกเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องแต่งกาย) ที่ต้องการตัด Stock ในแต่ละตัวเลือกด้วย
ดูวิธีการ add สินค้าแบบ Configuration Products ได้ที่นี่ครับ
-
Group Products หรือสินค้าที่จัดเป็นกลุ่ม
สินค้าแบบนี้คล้ายกับ Configuration Products จะต่างกับตรงที่สินค้าแบบนี้ จะไม่มีตัวเลือกให้ลูกค้าเลือกสีเลือกไซส์(หรือตัวเลือกอื่น) แต่จะแสดงสินค้า Simple Products ที่เป็นตัวลูกของ Grouped Products ออกมาทั้งหมด เพื่อให้ลูกค้า สามารถเลือกซื้อสินค้า หลายๆ รายการได้ในครั้งเดียว
-
Virtual Products
Virtual Products ถ้าจะให้แปลเป็นไทย อาจใช้คำว่า สินค้าจำลอง คือตัวสินค้า ที่ไม่ได้มีสินค้าจริงๆ ที่จะส่งลูกค้า หรือสินค้าที่จับต้องไม่ได้(แต่มีการซื้อขายจริงๆ นะครับ) เช่น การขายสิทธิ์ VIP, การขายสมาชิกต่างๆ, การซื้อคะแนนสะสม หรือสินค้าใดๆ ที่ไม่มีการส่งสินค้า เราก็มักจะ add สินค้าแบบ Virtual Products กัน
-
Bundle Products
ถ้าจะให้ยกตัวอย่างการ add สินค้า Bundle Products ที่เห็นชัดที่สุด ก็น่าจะเป็นสินค้า พวก คอมพิวเตอร์ หรือสินค้า ที่เลือกชิ้นส่วนเพื่อมาประกอบกันได้ โดยเราต้อง add สินค้าชิ้นส่วนต่างๆ เป็น Simple Products ก่อน เช่น Ram ขนาด 4GB, Ram ขนาด 8GB, Harddisk, จอ ขนาดต่างๆแล้วเอามา Grouped กันเข้าด้วยกันแบบ Bundle Products ลูกค้าก็จะสามารถสั่งประกอบคอมพ์ได้ โดยเลือกปรับเปลี่ยน Spec ได้เอง แล้วระบบก็จะคำนวณราคาสินค้า แปรเปลี่ยนไปตาม Spec คอมพ์ ที่ลูกค้าเลือก
การ add สินค้าแบบนี้ ยังสามารถตัด Stock ได้ตามปรกติ เพราะสินค้า ที่เป็นตัวลูกของ Bundle Products คือ Simple Products นั้นเอง
-
Downloadable Products หรือสินค้าที่ดาวน์โหลดได้
สินค้าพวกนี้ เหมาะกับพวก e-book หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อและชำระเงินแล้ว ระบบจะส่งอีเมล์ เพื่อแจ้งลิงค์ดาวน์โหลดให้ลูกค้าทราบ หรือลูกค้า สามารถ login เข้าระบบ เพื่อไปดาวน์โหลดไฟล์ก็ได้ เราสามารถกำหนดได้ด้วยว่าสินค้าชิ้นนี้จะดาวน์โหลดได้กี่ครั้ง และหมดอายุ เมื่อไหร่ หรือแชร์ไปยังสมาชิกคนอื่นๆ ได้หรือไม่
ดูบทความเรื่องการ add สินค้าแบบ Downloadable Products ได้ที่นี่ ครับ
จะเห็นได้ว่า การ add สินค้าใน Magento นั้น มีรูปแบบสินค้าอยู่ถึง 6 แบบ การเลือกประเภท การ add สินค้า ให้ถูก จะช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้ง่าย และเราก็บริหารจัดการสินค้าได้อย่างถูกต้อง และได้รูปแบบของสินค้าเป็นไปตามที่ต้องการ
บทความโดย : วิษณุ
ThaishopDesign